การเดินทางของไอศกรีมในประเทศไทย

ไอศกรีมเป็นสัญลักษณ์ความสุขของคนทุกวัย ทุกชาติ ทุกภาษา จุดเริ่มต้นเรื่องราวของไอศกรีมนั้นมีที่มาหลากหลาย และแตกต่างกันออกไป บ้างก็ว่ามีต้นกำเนิดจากยุโรป บ้างก็ว่าจากประเทศจีน แต่วันนี้ครีโมขอหยิบยกเฉพาะเรื่องราวของไอศกรีมในบ้านเรามาเล่าสู่กันฟัง

สำหรับไอศกรีมในบ้านเรานั้นคาดว่าน่าจะเข้ามาในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีการผลิตนํ้าแข็งกินเอง ไอศกรีมตอนนั้นทำจากนํ้าหวานหรือนํ้าผลไม้นำไปปั่นเย็นจนแข็ง ไม่มีนมหรือครีมผสมด้วย เรียกว่า “ไอติมหลอด” ซึ่งใช้แรงคนในการปั่นโดยมีหม้อทองเหลืองเส้นผ่าศูนย์กลาง 50-60 เซนติเมตร สูง 30 เซนติเมตร ภายในมีรูสำหรับเสียบกระบอกโลหะทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร ไว้สำหรับใส่นํ้าผลไม้หรือนํ้าหวาน ซึ่งก็คือแม่พิมพ์ที่ทำให้ไอติมเป็นแท่ง ไอติมหลอดได้รับความนิยมมากจนกลายเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนของคนสมัยก่อน มีการทำใส่กระติกแก้วเก็บความเย็นให้คนรับไปเร่ขาย กระติกไอติมหลอดจะมีหวายร้อยอยู่โดยรอบ มีห่วงสำหรับหิ้วหรือแบกไปขายได้สะดวก

จากกระติกสะพายไหล่กลายเป็นรถเข็นที่มีตู้เก็บความเย็น สามารถใส่ไอติมได้คราวละเยอะๆ เดินเข็นขายได้ทั้งวัน ต่อมาจึงเป็นซาเล้งหรือสามล้อถีบ

นับตั้งแต่นั้นมาสามล้อถีบก็กลายเป็นทั้งสัญลักษณ์และกลยุทธ์ในการขายไอศกรีมหลายๆ ยี่ห้อ แต่หากพูดถึงยี่ห้อไอศกรีมที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน หนึ่งในแบรนด์ที่หลายๆ คนต้องนึกถึงก็คือไอศกรีมครีโม ซึ่งเป็นแบรนด์ดั้งเดิมของไทยที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 ภายใต้การดูแลของบริษัท จอมธนา จำกัด

โดยโรงงานแรกตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ บนเนื้อที่เพียง 4 ไร่ ต่อมาบริษัทได้มีการพัฒนาและเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ จึงได้มีการย้ายฐานการผลิตมาที่จังหวัดปทุมธานี และเริ่มสร้างโรงงานใหม่บนเนื้อที่กว่า 56 ไร่ ในปี พ.ศ. 2543 เพื่อขยายโรงงานและเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บสินค้า

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในอดีตทำให้วันนี้ครีโมเป็นผู้นำด้านไอศกรีมของประเทศไทย ที่มีการพัฒนาทั้งรูปแบบรสชาติ และภาชนะใส่ไอศกรีมตลอดมา จากไอติมหลอดที่ผสมเพียงน้ำหวานในสมัยก่อนสู่ความหลากหลายทางรสชาติใหม่ๆ ที่มีทั้งรูปแบบแท่ง แบบถ้วย และแบบโคน ให้คนไทยได้เลือกรับประทานด้วยความสุขตลอด 40 ปีที่ผ่านมา

หากสนใจข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเพิ่มเติม หรืออยากมาเยี่ยมชมโรงงงานไอศครีมครีโม สามารถสอบถามหรือติดต่อเข้ามาที่ (+662)979-4800